กล้วยหอม ปลูกง่าย โตไว

กล้วยหอมทอง ปลูกง่าย โตไว โรคน้อย

พันธุ์ที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์หอมทองปทุม และพันธุ์หอมทองท่ายาง มีสหกรณ์และผู้รับซื้อหลายราย ทั้งขายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ ด้วยเพราะเป็นกล้วยที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ในบรรดากล้วยด้วยกัน เราจะพบว่ามีวางขายในห้าง 7-11 และคอนวิเนียนสโตร์ ทั่วไปแทบทุกแห่ง เพราะเป็นที่นิยมกินผลสุกมากที่สุดนั่นเอง

หอมทองปทุม พันธุ์ยอดนิยม ในปัจจุบัน

พันธุ์หอมทองปทุม เป็นกล้วยที่นิยมปลูกบนท้องร่อง มีมากที่จังหวัดปทุมธานี จึงเรียกว่า กล้วยหอมทองปทุม

มีลักษณะลำต้นสูงใหญ่กว่า 4-5 เมตร  ให้ผลผลิตสูง เครือใหญ่ ผลผลิตที่ได้ 10-16 หวีต่อเครือ จำนวนผลประมาณ 12-18 ผลต่อหวี สีเหลืองทอง นิยมใช้ไหว้ กินสุก และแปรรูปได้หลายรูปแบบ

เราปลูกพันธุ์หอมทองปทุมในดินสมบูรณ์สูงได้ถึง 4 เมตร หวีดก 10-14 หวี ลูกใหญ่ รสหวาน

เริ่มต้นปลูก ต้องทำอย่างไร?

โดยปกติการปลูกกล้วยที่มีลำต้นใหญ่ เช่นนี้ ควรต้องเว้นระยะห่างไม่ให้ปลายใบซ้อนกันระหว่างต้น เพื่อให้แดดส่องถึงพื้นดิน ซึ่งเป็นวิธีป้องกันเชื้อราตามธรรมชาติ ตามหลักวิชาการคือปลูกห่าง 4x4 เมตร ขุดหลุมลึก 50x50x50 เซ็นติเมตร

ฟาร์มอยู่ดีมีสุข ปลูกพันธุ์หอมทองปทุม ในดินร่วนปนทราย เพื่อขุดหน่อขาย เราจึงปลูกชิดเพียง 2x4 เมตร โดยตัดแต่งใบกล้วยอยู่เสมอเพื่อให้แดดส่องถึงพื้นดิน และเราขุดหลูมด้วยสองเกลอ ลึก 50 เซ็นติเมตร รองก้นหลุมด้วยเปลือกมะพร้าวสับหยาบ

บำรุงและดูแล อย่างไร?

โดยปกติกล้วยมักเป็นโรคใบจุดซึ่งเกิดจากเชื้อรา จึงควรเลือกพื้นที่ที่ไม่มีเชื้อราอาศัยอยู่ก่อน เช่น ที่โล่ง ห่างจากแปลงกล้วยเดิมที่เป็นโรค และเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากจึงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอ

การบำรุงเราให้ ปุ๋ย คือ

  1. ขี้วัวต้นละ 3-5 กำมือ ทุกระยะ 2 เดือน
  2. ปุ๋ยเคมีสูตร 0-0-60 ในช่วงที่ตกเครือ เพื่อบำรุงลูกให้สมบูรณ์
  3. เกษตรกรที่ปลูกแปลงใหญ่นิยมใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ในช่วง 2-3 เดือนแรก
  4. และตามด้วยสูตร 16-16-16 ในช่วง 4-5 เดือน และสูตร 13-13-21 ในเดือนที่ 7 แต่เราใช้เพียงขี้วัวเท่านั้นเอง

การดูแลเราตัดหญ้าทุก 2 อาทิตย์ เพื่อป้องกันด้วง และเพิ่มปุ๋ยตามธรรมชาติจากเศษหญ้าที่ตัด อีกทั้งทำให้แปลงปลูกสวยงามดี และตัดแต่งใบเดือนละครั้ง รวมทั้งฉีดพ่นไฮเปอร์เมทริน 25% เดือนละครั้งเพื่อกำจัดตัวอ่อนของด้วง และแมลงศัตรูกล้วย

ข้อเสียที่สำคัญคือ คอหักง่าย จึงจำเป็นต้องมีไม้ค้ำยัน ซึ่งโบราณมักใช้ไม้ไผ่ยาว 4 เมตร 2 ลำมัดปลายแล้วค้ำกล้วยในลักษณะถ่างขา แต่วิธีได้มีการพัฒนามาใช้ไม้ไผ่ลำเดียว ฝังดินลึก 50 เซ็นติเมตร แล้วมัดด้วยเชือกแทนในปัจจุบัน โดยต้องใช้ไม้ค้ำตั้งแต่เดือนที่ 3 เป็นต้นไป และหากปลูกเพื่อตัดลูกขายจำเป็นต้องห่อด้วยถุงห่อกล้วย เพื่อป้องกันผิวเสียหายอีกด้วย

ศัตรู และโรคมีมั๊ย?

กล้วยแทบทุกชนิดมักเป็นโรคใบจุดซึ่งเกิดจากเชื้อรา หรือโรคกล้วยตายพราย จึงควรเลือกพื้นที่ที่ไม่มีเชื้อราอาศัยอยู่ก่อน เช่น ที่โล่ง ห่างจากแปลงกล้วยเดิมที่เป็นโรค และเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากจึงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอ

และควรพ่นด้วยไตรโคเดอร์มาเป็นประจำ แต่เราไม่ได้พ่นเป็นประจำ หากใช้วิธีตัดแต่งใบเป็นประจำ ทำให้โรคระบาดน้อย และไม่เสียหาย ถือได้ว่าเป็นกล้วยปลูกง่าย และดูแลง่ายใช้เวลาเพียง 8 เดือน ก็ได้ผลผลิต แต่กล้วยหอมจะให้ผลผลิต 8 เดือนนับจากหน่อกล้วยเกิด ซึ่งหากหน่อกล้วยที่ปลูกมีอายุ 2 เดือน กล้วยต้นนั้นจะให้ผลผลิตในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้นเอง

บทสรุป

กล้วยหอมทองเป็นกล้วยที่น่าปลูกเพื่อการค้ามาก และมีราคาเฉลี่ยต่อปีสูงที่สุดในบรรดากล้วยด้วยกัน แถมยังมีโรคน้อยอีกด้วย

ฟาร์มอยู่ดีมีสุข ปลูกเพื่อขุดหน่อขายเป็นหลัก ซึ่งมีหน่อเยอะ มีตาหน่อก็เยอะ เหมาะทั้งขุดขายทันที และขุดขึ้นมาผ่าตา เพื่อชำถุงจำหน่ายอีกด้วย

ซื้อหน่อ ได้ที่ไหนบ้าง?

แชร์ได้นะ!

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart